แสวงบุญอินเดีย นมัสเตเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า นอกจากจะเป็นวันที่ชาวพุทธถือศีลเพื่อทำบุญและทำให้จิตใจเป็นสุขแล้ว หลายๆ คนยังถือว่าช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้ควรเดินทางไปแสวงบุญที่อินเดียอีกด้วย หรือเดินทางตามรอยพระพุทธบาทในประเทศอินเดีย แต่มีสถานที่ใดบ้างที่ผู้แสวงบุญชาวอินเดียไม่ควรพลาด? ได้รวบรวมไว้ให้คุณแล้ว
แสวงบุญอินเดีย พุทธคยา
แสวงบุญอินเดีย ย่อมจะเหมาะสมที่สุด. หากเราจะเริ่มต้นทัวร์อินเดีย ตามรอยพระพุทธเจ้า กับสถานที่แห่งนี้ พุทธคยา เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา เป็นที่ตั้งของต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และยังเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพานอีกด้วย หรือพิจารณาพระธรรมที่พระองค์ตรัสรู้เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ซึ่งทำให้สถานที่นี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินตามรอยพระพุทธบาทเป็นเวลาสองร้อยปี
ไม่เพียงแต่คุณจะได้ซึมซับบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาเท่านั้น ในแง่ประวัติศาสตร์ พุทธคยายังเต็มไปด้วยอาคารก่อนคริสต์ศักราช โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทำให้เสาหิน กำแพง และหินทุกก้อนในพุทธคยาเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของอินเดีย ใครที่ชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเลย และในปี พ.ศ.2545 UNESCO ได้ยกเมืองพุทธคยาให้เป็นมรดกโลกประเภทมรดกทางวัฒนธรรม แถมยังเพิ่มความน่าดึงดูดใจในการเดินทางอีกด้วย
การเดินทางไปพุทธคยา
หากคุณเที่ยวอินเดียด้วยตัวเอง สามารถเลือกนั่งแท็กซี่จากสนามบิน GAYA Airport ประมาณ 10 กิโลเมตร ตรงถึงพุทธคยาเลย
จุดเด่น
- เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแสวงบุญสำคัญของโลก
- มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญมากมาย
- กว้างขวาง แต่ร่มรื่น มีนักท่องเที่ยวและแสวงบุญมากมาย
- เดินทางสะดวกมาก
แนะนำ
- การแต่งกาย เนื่องจากเป็นวัด ควรแต่งกายให้มิดชิด สุภาพ เหมือนเข้าวัดที่ไทย
- มีนักท่องเที่ยวและแสวงบุญอินเดียเป็นจำนวนมาก หากใครเที่ยวอินเดียกับครอบครัวควรระวังเรื่องการพลัดหลง แต่หากใครท่องเที่ยวอินเดียคนเดียวควรระวังเรื่องสัมภาระ
- เดินทางสะดวก เหมาะมากสำหรับใครที่ลองเริ่มเที่ยวอินเดียด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
สารนาถ
สารนาถ สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนา อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ที่ตั้งของป่าอิสิพัฒน์มฤคทายวัน ซึ่งพระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาเรื่องอริยสัจสี่ (ต่อมาเรียกว่า วันนี้วันอาสาฬหบูชา) ในสมัยพุทธกาลบริเวณนี้เคยเป็นสวนที่มีกวางอยู่มากมาย เพราะมันโล่งและร่มรื่น ซึ่งพระภิกษุในสมัยนั้นมักจะใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญตบะ หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานประมาณ 300 ปี พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างเจดีย์ธรรมเอกเพื่อรำลึกถึงปฐมเทศนาครั้งแรก ทำให้สารนาถเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยหนึ่ง สารนาถขึ้นชื่อเรื่องของความร่มรื่น ซึ่งเหมาะมากสำหรับใครที่อยากสัมผัสความสงบเงียบ มีนักแสวงบุญและท่องเที่ยวมากมายมาที่นี่เพื่อนั่งสมาธิ ใครที่อยากหลบหนีความวุ่นวาย ให้ลองแบกเป้เที่ยวอินเดียคนเดียวมาสัมผัสความสงบที่นี่ได้เลยครับ
การเดินทางไปสารนาถ
ลงจากสนามบินนานาชาติ Lal Bahadur Shastri จากนั้นต่อแท็กซี่ประมาณ 12 กิโลเมตร
จุดเด่น
- สงบ ร่มรื่น มีความเป็นธรรมชาติสูง
- เหมาะสำหรับใครที่ต้องการนั่งสมาธิ อยู่กับธรรมชาติ
- มีที่สักการะสวยงามอยู่มากมาย
แนะนำ
- ควรแต่งกายให้สุภาพ
- เนื่องจากเป็นที่โล่ง บางช่วงเวลาอาจมีแดดร้อน ควรติดแว่นตากันแดดหรือหมวกไว้ด้วยนะ
กุสินารา หรือ กุสินคร
กุสินารา เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งหลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคตแล้วก็มีการสร้างวัดล้อมรอบ รวมทั้งพระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างเจดีย์ขนาดใหญ่ล้อมรอบ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย กุสินารามีสถานที่สำคัญให้เยี่ยมชมและสักการะ พระนิพพานที่พระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้สร้าง มีลักษณะคล้ายพระสถูปคว่ำ ภายในประดิษฐานเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระมหาปรินิพพานซึ่งเป็นพระพุทธรูปแบบมถุรา จุดเด่นคือสร้างด้วยหินทรายสีชมพูบล็อกเดียว ผู้แสวงบุญชาวอินเดียส่วนใหญ่ตั้งใจที่จะถวายผ้าห่มแด่พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพิธีที่สำคัญและสวยงามมาก โดยพระพุทธรูปมหาปรินิพพานนี้ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบกุสินาราก็ยังมีวัดมากมายรวมทั้งวัดไทยชื่อ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถพักค้างคืนได้อีกด้วย
การเดินทางไปกุสินารา
ลงเครื่องสนามบิน Mahayogi Gorakhnath Airport ต่อรถไปบนถนนหมายเลข 27 โคราฆปุระ – กุศินครประมาณ 45 กิโลเมตร
จุดเด่น
- เดินทางสะดวก
- เนื่องจากมีวัดไทยตั้งอยู่จึงมีคนไทยอยู่มาก
- เป็นที่ประดิษฐานทั้งพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปมหาปรินิพพานในที่เดียว
แนะนำ
- ควรแต่งกายให้สุภาพ
- หากใครต้องการเข้าร่วมพิธีถวายผ้าห่มแก่พระพุทธเจ้า ควรตรวจสอบเวลาให้แน่ชัดก่อนนะ จะได้ไม่ไปเสียเที่ยว
ถ้ำอชันตา
แสวงบุญอินเดีย ตั้งอยู่ในเมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฏระ อยู่ลึกและโดดเดียวในหุบเขา ถ้ำอชันตา นี่คือถ้ำที่ได้ชื่อว่าเป็น วัดถ้ำที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 350 ด้วยวิธีการสกัดถ้ำเข้าไปเพื่อสร้างเป็นวัดและวิหารขนาดใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยรูปแกะสลักหินเป็นพระพุทธรูปหลายร้อยรูป รวมถึงงานแกะสลักผนังถ้ำที่สวยงามมากมาย ถ้ำอชันตาเคยถูกทิ้งร้างนานกว่าพันปีหลังจากศาสนาพุทธเสื่อมความนิยมลงในประเทศอินเดีย ก่อนจะถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2362 ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งขุมปัญญาชั้นดีสำหรับการศึกษาพระพุทธศาสนาในอินเดีย ด้วยความที่แกะสลักจากหินภูเขาทำให้มีความคงทนสูง ภายในถ้ำอชันตาจึงเต็มไปด้วยรูปแกะสลักหินและสลักผนังถ้ำในสภาพดี ที่บันทึกเรื่องราวในพระพุทธศาสนาอันน่าสนใจมากมาย
นอกจากนี้ ถ้ำอชันตาเป็นหนึ่งในมรดกโลกแล้ว จากการขึ้นทะเบียนของยูเนสโกในปี 2527 และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถ้ำที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธในอดีตได้ชัดเจนที่สุด แต่ด้วยความที่ถ้ำแห่งนี้อยู่ลึกในหุบเขา การเดินทางก็อาจจะลำบากนิดหน่อย หากใครอยากสัมผัสความยิ่งใหญ่นี้ด้วยตา คุณควรจะมีประกันเดินทางที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เผื่อในกรณีไม่คาดฝันใว้หน่อยก็ดีนะครับ Frank เป็นห่วง
การเดินทางไปถ้ำอชันตา
ลงจากสนามบินเมือง Aurangabad จากนั้นต่อรถไปยังอีกประมาณ 2 ชั่วโมง (ควรเลือกรถที่เตรียมใว้เท่านั้น)
จุดเด่น
- ตัววัดและวิหารมีความสวยงามมาก
- ศิลปะและสถาปัตยกรรมยังคงสภาพดี ได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่อง
- อยู่ท่ามกลางหุบเขา มีความร่มรื่นสูงมาก
- เหมือนหลุดไปยังอดีต
แนะนำ
- ควรแต่งกายให้คล่องตัว เช่น รองเท้าผ้าใบ
- การเดินทางค่อนข้างลำบาก ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทาง
- เหมาะมากสำหรับใครที่ชอบการผจญภัย